สินทรัพย์ลงทุนมีอะไรบ้าง และตัวไหนเหมาะกับใคร ??
ความรู้การเงิน และการลงทุน22,468
สินทรัพย์ลงทุนมีอะไรบ้าง และตัวไหนเหมาะกับใคร ??
หากจะพูดถึงการลงทุน หลายคนคงรู้จักสินทรัพย์ลงทุนกันอยู่แล้ว วันนี้ 724 จะมาแนะนำสินทรัพย์ลงทุนที่บางตัวเรารู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และสินทรัพย์ลงทุนที่เพิ่งจะมาเป็นที่นิยมกันไม่นานมานี้ พร้อมความเสี่ยงของสินทรัพย์และผลตอบแทนของแต่ละตัว เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง และตัวไหนเหมาะกับใคร
1. เงินฝาก
724 จะขอแนะนำการลงทุนในเงินฝากที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากออมทรัพย์ 2 ประเภท ดังนี้
- เงินฝากประจำ
หมายถึง : เป็นเงินฝากที่ต้องฝากให้ครบตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทั้งจำนวนเงินและ ระยะเวลาการฝาก หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ก็จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 0.30 – 1.20 % ต่อปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ฝาก)
รอบการจ่ายดอกเบี้ย : รายเดือน หรือเมื่อครบกำหนด (แล้วแต่ธนาคารกำหนด)
สภาพคล่อง : ค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการฝากตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน ฯลฯ
ความเสี่ยง : ต่ำมาก
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงแทบไม่ได้ และไม่ต้องการสูญเสียเงินต้น
- เงินฝากดิจิทัล
หมายถึง : เป็นเงินฝากที่คล้ายกับเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป แต่จะไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากและ ใช้งานผ่าน Application ของธนาคาร
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 1.10 – 2.00 % ต่อปี
รอบการจ่ายดอกเบี้ย : รายเดือน หรือราย 6 เดือน
สภาพคล่อง : สูง
ความเสี่ยง : ต่ำมาก
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงแทบไม่ได้ และไม่ต้องการสูญเสียเงินต้น
ประกาศคุ้มครองเงินฝากรายละ 1,000,000 บาท โดยนับ 1 ธนาคาร (รวมทุกบัญชี ) เป็น 1 ราย เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2564
2. ตราสารหนี้ภาครัฐบาล
หมายถึง : เป็นเอกสารที่ภาครัฐออกเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้กู้ยืมเงินจากนักลงทุนทั่วไป ออกโดยกระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานภาครัฐ ออกจำหน่ายเพื่อระดมทุนประชาชนและสถาบันการเงิน เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วสัญญาใช้เงิน พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น มีทั้งระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี และระยะยาว 1 ปีขึ้นไป
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 0.40- 2.00 % ต่อปี
รอบการจ่ายดอกเบี้ย : ส่วนใหญ่ราย 6 เดือน
สภาพคล่อง : ต่ำ เนื่องจากมีระยะเวลาการไถ่ถอนหรือครบกำหนดอายุ
ความเสี่ยง : ต่ำ
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงได้บ้างและต้องการผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก
3. ตราสารหนี้ภาคเอกชน
หมายถึง : เป็นเอกสารที่ภาคเอกชนออกเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้กู้ยืมเงินจากนักลงทุนทั่วไป
ซึ่งอยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เช่น ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ เป็นต้น มีทั้งแบบระยะสั้น ซึ่งมีอายุไม่เกิน 270 วัน และระยะยาวมีอายุเกิน 270 วันขึ้นไป
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 1.20 - 6.00 % ต่อปี ขึ้นอยู่กับระดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
- Investment Grade หมายถึง “กลุ่มระดับลงทุน" Rating ตั้งแต่ AAA จนถึง BBB-
- Non-Investment Grade หมายถึง “กลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน" Rating ตั้งแต่ BB+ จนถึง D
รอบการจ่ายดอกเบี้ย : ส่วนมากจ่ายรายไตรมาส
สภาพคล่อง : ต่ำ เนื่องจากมีระยะเวลาการไถ่ถอนหรือครบกำหนดอายุ
ความเสี่ยง : ต่ำ (ขึ้นอยู่กับระดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating))
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงได้บ้างและต้องการผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก
4. ตราสารทุน (หุ้น)
หมายถึง : เป็นตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือ (Holder) เพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ โดยผู้ถือตราสารทุนจะมีฐานะเป็น "เจ้าของกิจการ" ซึ่งจะมีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ มีสิทธิในทรัพย์สิน และรายได้กิจการ รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล (Dividend) ซึ่งอาจปันผลเป็นเงินสดหรือปันผลเป็นหุ้นก็ได้ และข้อตกลงของกิจการนั้น ๆ สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 8.00 - 12.00 % ต่อปี
รูปแบบผลตอบแทน : เงินปันผลและส่วนต่างราคา
สภาพคล่อง : สูง
ความเสี่ยง : สูง
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
5. ทองคำ
หมายถึง : เป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ธนาคารแห่งชาติทั่วโลกก็นิยมใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ ปัจจุบันสามารถลงทุนในทองคำได้หลายรูปแบบ เช่น ทองคำแท่ง ตั๋วสัญญา เป็นต้น
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 4.00 - 5.00 % ต่อปี
รูปแบบผลตอบแทน : ส่วนต่างราคา
สภาพคล่อง : สูง
ความเสี่ยง : ปานกลาง
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง
6. อสังหาริมทรัพย์
หมายถึง : เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ซื้อมาเพื่อรอขายทำกำไร ให้เช่า รีโนเวทเพื่อขายทำกำไร และกองทุนอสังหาริมทรัพย์
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 2.00 - 5.00 % ต่อปี
รูปแบบผลตอบแทน : ค่าเช่า ส่วนต่างราคา และเงินปันผล (กรณีลงทุนในกองทุน)
สภาพคล่อง : ปานกลาง
ความเสี่ยง : ปานกลาง
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง
7.Cryptocurrency
: เป็นเงินดิจิทัลที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป เพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญเงินบาท ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก เช่น Bitcoin (BTC) Ethereum (ETH) Solana (SOL) Cardano (ADA) และยังมี Cryptocurrency สัญชาติไทย เช่น JFin (Coin JFIN) Bitkub Coin (KUB) Alpha Finance (ALPHA)
ผลตอบแทนเฉลี่ย : ประมาณการไม่ได้เนื่องจากมีความผันผวนมาก
รูปแบบผลตอบแทน : ส่วนต่างราคา
สภาพคล่อง : สูง
ความเสี่ยง : สูงมาก
เหมาะกับใคร : ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก
8.Brand Name
หมายถึง : เป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสม แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นการลงทุนทางเลือกที่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น คือการซื้อสินค้าแบรนด์เนมมาเก็บสะสม รอจังหวะราคาปรับตัวขึ้นนำมาขายต่อทำกำไร สินค้าที่นิยมลงทุน ได้แก่ นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ การลงทุนแบบนี้ต้องชอบเป็นการส่วนตัว และศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดีว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหน เป็นที่นิยมของนักสะสมและสามารถทำกำไรได้
ผลตอบแทนเฉลี่ย : 5%
รูปแบบผลตอบแทน : ส่วนต่างราคา
สภาพคล่อง : ปานกลาง
ความเสี่ยง : ปานกลาง
เหมาะกับใคร : ผู้ที่ชื่นชอบและเก็บสะสมแบรนด์เนม สามารถรับความเสี่ยงได้เพราะว่าไม่ใช่ทุกชิ้นจะเป็นที่นิยมและทำกำไรได้
ไม่ว่าจะลงทุนแบบไหนทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง 724 อยากให้ทุกคนศึกษาข้อมูลให้รอบครอบก่อนการลงทุนด้วยนะคะ