ช่วงนี้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังมาแรงสุด ๆ ทั้งในเรื่องการช่วยลดมลพิษและความประหยัดเมื่อเทียบกับรถน้ำมัน แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ “อนาคตของแบตรถ EV จะถูกลงจริงหรือเปล่า?”

คำตอบคือ มีโอกาสสูงมาก ที่แบตรถ EV จะถูกลงในอนาคต ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยให้ราคามันลดลงเรื่อย ๆ มาดูกันว่าเป็นเพราะอะไรบ้าง

1. เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ล้ำขึ้นเรื่อย ๆ
   ตอนนี้แบตรถ EV ส่วนใหญ่ใช้แบตลิเธียมไอออน แต่เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างแบต solid-state หรือแบตลิเธียมซัลเฟอร์ กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะเก็บไฟได้มากขึ้น ยังถูกกว่าในการผลิตด้วย

2. ผลิตเยอะ ต้นทุนยิ่งถูก
   ยิ่งคนหันมาใช้รถ EV มากขึ้น โรงงานก็สามารถผลิตแบตได้เยอะขึ้น เช่น Tesla ที่สร้างโรงงาน Gigafactory ที่ผลิตแบตในปริมาณมหาศาล การผลิตแบบนี้ช่วยลดต้นทุนต่อชิ้นไปได้เยอะ

3. การแข่งขันกันพัฒนาแบต
   บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง CATL, LG Chem และ Panasonic กำลังแข่งกันพัฒนาแบตที่ดีขึ้น ถูกลง และใช้พลังงานได้นานขึ้น ยิ่งการแข่งขันเยอะ ผู้บริโภคก็ได้ประโยชน์จากการที่ราคาถูกลงตามมา

4. วัตถุดิบเริ่มหาง่ายขึ้น
   วัตถุดิบหลักอย่างลิเธียมหรือนิกเกิล ที่แต่ก่อนอาจหายาก แต่ตอนนี้เริ่มมีการค้นพบแหล่งใหม่ ๆ ทำให้วัตถุดิบราคาถูกลง ต้นทุนการผลิตแบตก็ถูกลงไปด้วย

5. รัฐบาลหนุนเต็มที่
   หลายประเทศออกนโยบายสนับสนุนรถ EV และการพัฒนาเทคโนโลยีแบต ทั้งเงินช่วยเหลือและมาตรการต่าง ๆ ทำให้ผู้ผลิตแบตและรถ EV มีโอกาสลดราคาสินค้าได้มากขึ้น

สรุป
อีกไม่นานนี้เราน่าจะเห็นแบตรถ EV ราคาถูกลงแบบชัดเจน ซึ่งจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น ทั้งในแง่ของราคาและการช่วยรักษ์โลก แบบที่รถน้ำมันทำไม่ได้