รูปแบบการฉ้อโกงทางการเงินมีอะไรบ้าง รู้ไว้ไม่เสร็จโจร
ความรู้ทั่วไป363

รูปแบบการฉ้อโกงทางการเงินมีอะไรบ้าง รู้ไว้ไม่เสร็จโจร
แม้ว่าทุกวันนี้ จะมีการนำเสนอข่าวรายวัน ทั้งออกอากาศผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ที่กล่าวถึงกรณีมิจฉาชีพได้ทำการหลอกลวง ฉ้อโกง ทำให้เหยื่อเสียทรัพย์ โอนเงินจนหมดตัว แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนตกเป็นเหยื่อหน้าใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นในฝั่งมิจฉาชีพเองก็มีการพัฒนารูปแบบ ปรับเปลี่ยนกลวิธีการฉ้อโกงใหม่ๆ เพื่อให้ทันยุคสมัย
ดังนั้นในวันนี้ 724 Wealth จะมาบอกให้ทุกท่านได้ทราบกันว่า ณ ปัจจุบันกลโกงที่มิจฉาชีพมักใช้เพื่อหลอกเหยื่อมีอะไรบ้าง ในวันข้างหน้าถ้าเกิดโชคร้าย ไปพบเจอเหตุการณ์อะไรที่คล้ายๆ แบบนี้ท่านจะได้ไหวตัวทัน
รูปแบบการฉ้อโกงที่พบบ่อย
- แชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme)
ที่เริ่มจากการหลอกลวงให้คนมาลงทุนโดยให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ อาจมีการประชาสัมพันธ์โดยคนที่เป็นคนดัง ดารา อินฟลูเอ็นเซอร์ที่อาจดูน่าเชื่อถือ จากนั้นเมื่อเริ่มได้เงินลงทุนจากเหยื่อก็ใช้เงินจากนักลงทุนหน้าใหม่ ไปจ่ายให้กับนักลงทุนเก่า หมุนกันเป็นลูกโซ่ ท้ายสุดหากไม่มีนักลงทุนหน้าใหม่ ในส่วนเจ้าของธุรกิจ หรือผู้ถือหุ้นก็อาจหอบเงินออกและปิดบริษัท ทำให้ผู้ลงทุนที่หลงกลเสียหาย - หลอกลวงออนไลน์ (Phishing)
ลักษณะเป็นการติดต่อทางโทรศัพท์ ส่งข้อความ ส่งอีเมล ส่งลิ้งค์เว็บไซต์ปลอม เพื่อแอบอ้างเป็นสถาบันทางการเงิน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกให้เหยื่อแจ้งข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต จากนั้นมิจฉาชีพก็นำข้อมูลไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินเอง - การดักข้อมูลบัตรเดบิต / เครดิต (Skimming)
ลักษณะเป็นการทำเครื่องอ่านข้อมูลบัตรปลอม แป้นพิมพ์รหัสบัตรปลอม แล้วนำไปติดไว้ที่ตู้ ATM เครื่องอ่านบัตรปลอมนี้จะบันทึกข้อมูลจากแถบแม่เหล็กบนบัตรของเหยื่อ ซึ่งอุปกรณ์นี้ส่วนใหญ่จะดัดแปลงให้มีขนาดเล็ก และมีความใกล้เคียงกับเครื่องอ่านบัตรจริง - การปลอมแปลงเอกสาร (Forgery)
ปลอมแปลง แก้ไขข้อความ แก้ไขตัวเลข ปลอมลายมือ ประทับตราปลอม ในเอกสารทางราชการ หรือเอกสารทางการเงิน จนทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อ หรือเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น - การใช้ข้อมูลภายในซื้อ-ขายหุ้น (Insider Trading)
เป็นการซื้อ-ขายหุ้นโดยอาศัยข้อมูลหรือเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ เป็นข้อมูลยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะชน เช่น ข้อมูลผลการดำเนินงาน ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบริษัท ฯลฯ จนเกิดความเสียหายต่อนักลงทุน หรือตลาดทุน - หลอกลงทุน (Investment Scam)
แอบอ้างว่าลงทุนในหุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล ที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น โดยชักชวนให้ผู้หลงเชื่อฝากเงินเข้าแพลตฟอร์มซื้อขายปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา แต่แท้จริงแล้วไม่มีการเอาเงินไปลงทุนจริง จากนั้นสร้างความเชื่อถือโดยการส่งข้อมูลตัวเลขผลกำไรปลอม เพื่อให้คนที่หลงเชื่อและนำเงินมาลงทุนเพิ่ม สุดท้ายก็ระบบซื้อขายก็ปิดตัวและหอบเงินหนี
วิธีป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน
- อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลทางการเงิน แก่บุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ
- ตรวจสอบข้อมูล และเอกสารก่อนทำธุรกรรมการเงิน
- ควรระวังข้อความ หรือสายโทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานของรัฐ
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสในคอมพิวเตอร์ของท่าน และตรวจสอบความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนที่ท่านใช้อยู่
- เลือกใช้ตู้ ATM ที่ไม่ลับสายตา มีกล้องวงจรปิด และสังเกตช่องสอดบัตรเดบิต ก่อนใช้งานทุกครั้ง
- ไม่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่น่าสงสัยว่าจะมีการส่งต่อข้อมูลส่วนตัวให้แก่มิจฉาชีพลงในสมาร์ทโฟนที่ท่านใช้อยู่
- หลีกเลี่ยงการใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ช่องทางการแจ้งความ
- แจ้งความออนไลน์ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1441, 081-866-3000 หรือ
www.thaipoliceonline.com เพื่ออายัดบัญชีออนไลน์ ถึงธนาคารที่ดูแลทันทีไม่เกิน 24 ชั่วโมง
- แจ้งถูกชักชวนหลอกลงทุน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1202
- แจ้งถูกชักชวนหลอกลงทุนใน หุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ ก.ล.ต. กำกับดูแล ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1207