เช็กลิสต์ 5 โรคร้ายแรง ที่ผู้หญิงต้องระวัง !

ปัจจุบันนี้มีโรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายทำให้เราต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น ยิ่งผู้หญิงอย่างเรายิ่งต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นไปอีก เริ่มจากการสังเกตุตัวเองในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันก่อน เช่นในเรื่องของอาหารการกิน หรือการรักษาความสะอาด เพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้มักจะทำให้สาว ๆ นั้นมองข้ามไป และยิ่งถ้าเราปล่อยปะละเลย ไม่สนใจก็อาจจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งวันนี้เราได้รวม 5 โรคร้ายยอดฮิตที่มักจะเกิดในผู้หญิง มาให้สาว ๆ ได้สังเกตุตัวเองและหันมาใส่ใจดูเเลตัวเองกันมากขึ้น !

โรคที่ผู้หญิงต้องระวัง

1. มะเร็งเต้านม

สาเหตุของโรคคือมาจากพันธุกรรม นอกจากนี้การที่มีน้ำหนักตัวมาก ไม่หมั่นออกกำลังกาย รวมถึงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นตัวกระตุ้นเช่นกัน ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม และทำอัลตราซาวด์ทุก 1-2 ปี

2. โรคเนื้องอกมดลูก

โรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายเนื่องจากมีภาวะซีด ความรุนแรงขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอก

- เนื้องอกบริเวณด้านบนมดลูก : ไม่แสดงอาการจะตรวจพบเมื่อก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่

- เนื้องอกบริเวณใต้เยื่อบุโพรงมดลูก : ทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติและมีหลายวัน

- เนื้องอกบริเวณด้านหลัง : เนื้องอกจะไปกดที่ลำไส้ใหญ่ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก

- เนื้องอกขยายไปทางด้านข้าง : เนื้องอกไปกดที่ท่อไตทำให้การทำงานของไตเสีย

- เนื้องอกบริเวณด้านหน้าใต้กระเพาะปัสสาวะ : ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะลำบาก

3. มะเร็งปากมดลูก

เป็นมะเร็งลำดับ 2 ที่พบมากในผู้หญิง สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ ไวรัสที่ติดต่อทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ และการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีบุตรหลายคน สูบบุหรี่ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ช่วงอายุที่มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากที่สุดคือ 40-50 ปี หากพบความผิดปกติเช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์

4. มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

เป็นโรคมะเร็งที่มีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนของเพศหญิง อาการที่เป็นสัญญาณเตือนของโรคคือประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีเลือดออกบริเวณช่องคลอด และผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่าคนปกติ คือผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์

5. ถุงน้ำหรือซีสต์ที่รังไข่

เกิดจากเซลล์ในรังไข่พบได้ 2 ชนิดคือ ถุงน้ำที่เกิดจากเซลล์ผิวของรังไข่ และถุงน้ำที่เกิดจากเซลล์ผิวหนัง ในระยะเริ่มแรกจะไม่มีอาการแต่ถุงน้ำจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หากใหญ่ขึ้นจนแกว่งตัวได้จะทำให้เกิดการบิดที่ขั้วรังไข่ ส่งผลให้มีอาการปวดท้องน้อยเฉียบพลัน