ค่าปรับภาษีย้อนหลัง ไม่มีแม้คำปลอบใจ
ความรู้การเงิน และการลงทุน5,637

ค่าปรับภาษีย้อนหลัง ไม่มีแม้คำปลอบใจ
เมื่อช่วงเวลาแห่งการยื่นภาษีมาถึง พลเมืองชาวไทยที่มีรายได้ต่างก็วุ่นวายหาเอกสารประกอบสำหรับการยื่นภาษี สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งจะมีโอกาสยื่นภาษีเป็นครั้งแรกในปีนี้ หรือบางคนที่อาจไม่เคยยื่นภาษีมาก่อนเลย ต้องระมัดระวังให้ดีทีเดียว เราซึ่งเป็นบุคคลผู้มีรายได้ จึงไม่ควรหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีในแต่ละปี เพื่อจะได้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ โดนค่าปรับจากการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ฉะนั้นมาทำความรู้จักกับคำว่า การเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งเป็นการตรวจสอบการยื่นภาษีเพื่อป้องกันและปราบปรามทางภาษีอากร โดยมี หน่วยงานรับผิดชอบคือ กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต แต่ที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรงคือ กรมสรรพากร ที่มีกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีธุรกิจ
โดยที่คุณจะเข้าข่ายโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง หากคุณไม่จ่ายภาษี และจ่ายภาษีไม่ถูกต้อง หรือเลี่ยงภาษี จ่ายภาษีไม่ครบตามที่ระบุ เป็นต้น แล้วกรมสรรพากรจะทราบได้อย่างไร เขามีวิธีการตรวจสอบ ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนด้วยกัน ขั้นตอนแรกคือ การตรวจแนะนำด้านภาษี ขั้นตอนต่อมาคือ การเตือนให้ยื่นแบบ ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์และการตรวจสอบแบบแสดงรายการภาษี ขั้นตอนที่ 4 การตรวจปฏิบัติการ และขั้นตอนสุดท้ายคือ การออกหมายเรียก ซึ่งลำดับขั้นความรุนแรงก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับไป แต่เรามีวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ เพื่อทุกท่านจะไม่โดนภาษีย้อนหลังอย่างแน่นอน
1. ยื่นภาษีทุกปี
หลาย ๆ คนที่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน คิดว่าตัวเองเงินเดือนไม่ถึงจึงไม่ต้องยื่นภาษี แต่จริง ๆแล้ว หากเรามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,000 บาทขึ้นไปหรือปีละ 120,000 บาท เรามีหน้าที่ต้องยื่นภาษี เพื่อความปลอดภัยเราควรยื่นภาษีทุกปี และต้องตรวจสอบเอกสารรายรับของเราให้ครบถ้วนก่อนยื่นภาษีที่สำคัญต้องดูว่ารายรับของเราอยู่ในเงินได้ประเภทไหน และอย่าลืมใช้สิทธิ์การลดหย่อนภาษี ยิ่งถ้าคุณลงทุนโดยการซื้อกองทุน หน่วยลงทุนต่าง ๆ ไว้ คุณอาจได้เงินคืนภาษีด้วย
2. ทำบัญชีรายเดือน
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน นอกจากช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายของเราแล้ว ยังทำให้เรามีหลักฐานการมีรายได้เพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีในแต่ละปีได้อีกด้วย บางคนมีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือน ก็ต้องนำมายื่นภาษีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถวางแผนลดหย่อนภาษีแบบเฉลี่ยเป็นรายเดือนได้โดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงปลายปี เป็นการจัดการและบริหารบัญชีแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
3. ติดตามข่าวสารเรื่องภาษี
คุณควรที่จะติดตามข่าวสารเรื่องการยื่นภาษี เพราะแต่ละปีจะมีกฎหมาย หรือเงื่อนไขใหม่ๆ ออกมา ที่อาจเป็นผลประโยชน์ต่อเราในการลดหย่อนภาษี ถ้ามีข้อสงสัยแนะนำให้สอบถามไปยังกรมสรรพากร สามารถเช็กยอดภาษี วิธีการตรวจภาษี การขอลดค่าปรับ หรือการขอเงินเพิ่ม ถ้าจะให้ดีเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรเพื่อความถูกต้องกันเลย https://www.rd.go.th/37392.html
อ่านมาถึงบรรทัด หลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่า ถ้าเราบังเอิญลืมยื่นภาษีหรือยื่นภาษีล่าช้า จะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง ซึ่งบทลงโทษและค่าปรับจะลดหลั่นกันไปตามความผิด ดังต่อไปนี้
1. ยื่นแบบภาษีทันกำหนด แต่เสียภาษีไม่ครบ มีค่าปรับดังนี้
- เสียเบี้ยปรับ 0.5 - 1 เท่า ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
2. ไม่ได้ยื่นแบบภาษีภายในกำหนด มีค่าปรับดังนี้
- มีโทษปรับทางอาญาสูงสุด 2,000 บาท
- เสียเบี้ยปรับ 1 - 2 เท่า ของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
3. เจตนาละเลยไม่ยื่นแบบภาษีภายในกำหนดเพื่อเลี่ยงภาษี มีค่าปรับดังนี้
- มีโทษปรับทางอาญาสูงสุด 5,000 บาท โทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน
- เสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่พ้นกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
4. หนีภาษี มีค่าปรับดังนี้
- มีโทษปรับทางอาญาตั้งแต่ 2,000 - 200,000 บาท จำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี
- เสียเบี้ยปรับ 2 เท่าของค่าภาษีที่ต้องจ่าย
- เสียเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องจ่าย โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่เลยกำหนดให้ยื่นแบบจนถึงวันที่จ่ายครบ
เรื่องภาษีเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทย แต่ทว่ายังมีคนจำนวนหนึ่งนิ่งเฉยและขาดความรู้ทางด้านภาษี ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจและหมั่นศึกษาไปพร้อม กับการวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำการยื่นภาษีอย่างถูกต้องทุกปี เพราะการโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังนั้นคงเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากเจอ