724 Wealth

ทำไมราคามัทฉะ ถึงแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทำไมราคามัทฉะ ถึงแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่มาแรงที่สุดในช่วงปี 2568 คงไม่มีใครไม่พูดถึง "มัทฉะ" โดยเฉพาะ "เพียวมัทฉะ" (Pure Matcha) ที่มาแรงแซงหน้าทุกเมนูในร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ รวมถึงร้านเบเกอรี่ โดยหลายๆ ร้านจะมีมัทฉะพรีเมียมไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มมัทฉะ ขนมเค้กหน้ามัทฉะ ขนมมัทฉะอัดแท่ง ไอศครีมรสมัทฉะ ไปจนถึงอาหารเสริมอย่างผงมัทฉะบรรจุแคปซูลก็มีอันนี้แอดมินเคยเห็น เรียกได้ว่า “มัทฉะฟีเวอร์” แบบตะโกน แต่บางครั้งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันโดยเฉพาะร้านเครื่องดื่ม จนบางร้านถึงกับประกาศ “จำกัดจำนวนการซื้อ” เพราะผงมัทฉะที่เป็นวัตถุดิบหลักขาดแคลน


ทำไมเจ้า “ผงเขียว” มันดีจัง...มันดีกว่าชาวบ้านเขา? 
มัทฉะกลายเป็นเครื่องดื่มที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโซเชียลมีเดียช่วงต้นปี 2568 ผนวกกับเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ เป็นปัจจัยผลักดันที่ทำให้เครื่องดื่มสีเขียวอองตองนี้กลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพและเป็นสัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์ ที่สำคัญมัทฉะมีประโยชน์มากมายด้วย ทั้งต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มพลังงาน และช่วยให้จิตใจสงบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างรอบด้าน มัทฉะได้รับความนิยมอย่างมากบนโลกโซเชียลเช่นกัน หากเราเปิด Instagram และ TikTok จะพบว่าโพสต์เกี่ยวกับมัทฉะมักจะได้รับยอดเข้าชมหลายล้านครั้ง เป็นเทรนด์มาแรงบนโซเชียลมีเดียในด้านการดูแลสุขภาพ และการทานมังสวิรัติ เนื่องจากมีสีเขียวสดที่ดึงดูดสายตาชาววีแกนสุดๆ นอกจากนี้ มัทฉะยังถูกนำเสนอโดยบล็อกเกอร์อาหารผ่านสูตรอาหารสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งมักจะได้รับความนิยมสูงจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เช่น ผงมัทฉะผสมน้ำมะพร้าว อันนี้แอดมินชอบทำดื่มเองเพราะทำง่ายสะดวก มัทฉะผสมน้ำผึ้ง นอกจากนี้ยังสามารถหาสูตรผสมมัทฉะได้หลากหลายบนโลกออนไลน์ ในกระทู้ Pantip หรือ Reddit ก็มี จนต้องบอกว่า “คุณเอง ก็เป็นนักชงมัทฉะได้นะ” ลองดูครับ

มัทฉะมี Story จึงมีคุณค่า
มัทฉะ มีคุณค่าทางวัฒนธรรมในญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่ม แต่เป็น สัญลักษณ์ของศิลปะ พิธีชงชามัทฉะในญี่ปุ่นจะรวม ความปราณีต ความมีสติ และความเคารพ เข้าไว้ด้วยกัน โดยได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายเซน เน้นความสงบเรียบง่าย (wabi-sabi) ทุกขั้นตอนตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์ ล้างชาม ตีชา จนถึงขั้นตอนสุดท้ายอย่างการส่งถ้วยชาให้แขก — แสดงถึงความใส่ใจและการให้เกียรติ

 

การผลิตที่จำกัด + ความต้องการสูงขึ้น = ราคาแพงขึ้น
เหตุผลที่ทำให้ผงมัทฉะยังคงเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงก็คือ ต้นชาที่นำมาผลิตเป็นมัทฉะนั้นปลูกได้ในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยเท่านั้น ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น เฉพาะในเขตภูมิภาคชิซุโอกะ นิชิโอะ และอุจิ ที่มีสภาพดิน ความสูงที่เหมาะสม ต้นชานั้นต้องถูกดูแลอย่างดีหากสภาพอากาศบางช่วงเกิดมีอุณหภูมิสูงขึ้น หรือฝนตกหนักผิดปกติก็จะกระทบคุณภาพของใบชาอาจทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อยลง
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดสัญชาติอินเดียอย่าง Mordor Intelligence ระบุว่า ตลาดมัทฉะโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นด้วยอัตรารายปีเฉลี่ย 9.46% ระหว่างปี 2023 ถึง 2028 โดยมีรายได้ที่คาดการณ์ไว้จะอยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 การเติบโตนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสนิยมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระดับโลกและการผสมผสานของวัฒนธรรมต่าง ๆ เทรนด์มัทฉะในยุโรปกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากความสนใจของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี จากรายงานการวิจัยตลาด ตลาดมัทฉะในยุโรปคาดว่าจะเติบโตด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ที่ 7.6% ระหว่างปี 2021 ถึง 2026 ขนาดตลาดในปี 2021 ถูกประเมินไว้ที่ประมาณ 450 ล้านยูโร และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 650 ล้านยูโรภายในปี 2026 นี่ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นการพัฒนาตลาดที่สำคัญ ตั้งแต่ร้านกาแฟจนถึงร้านสินค้าเพื่อสุขภาพ มัทฉะได้แทรกซึมเข้าสู่หลายภาคส่วน รวมถึงอาหาร เครื่องดื่ม และแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นี่เป็นโอกาสมากมายสำหรับลูกค้าประเภท B2B เช่น การซื้อยกล็อตในปริมาณมาก การซื้อล่วงหน้าโดยเซ็นสัญญาข้ามปี


สรุป
จากกระแสการบริโภคมัทฉะทั่วโลกที่สูงขึ้น กับความสามารถในการผลิตใบชาที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผงมัทฉะมีจำกัด เพราะต้องผลิตในพื้นที่เฉพาะ และปัจจุบันมัทฉะไม่ได้ถูกใช้ในธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มเท่านั้น ยังมีการขยายไปยังธุรกิจดูแลสุขภาพอีกด้วย ความต้องการที่เพิ่มพูนนี้อาจทำให้ในบางช่วงมัทฉะอาจขาดตลาดไปเลย ดังนั้นเมื่ออุปสงค์เพิ่มขึ้น แต่ อุปทานเพิ่มตามไม่ทัน ทำให้ราคาเจ้าผงเขียวสารพัดประโยชน์นี้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นเอง