ลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศ แบบ Hedge กับ Zero Hedge ต่างกันอย่างไร ?

ในยุคที่การลงทุนไร้ขอบเขต กองทุนรวมต่างประเทศได้รับความนิยม และมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะทำให้นักลงทุนไทยสามารถกระจายความเสี่ยง โอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และเป็นช่องทางเข้าถึงการลงทุนในตราสารทางการเงินระดับโลก สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือนักลงทุนมากประสบการณ์ กองทุนรวมต่างประเทศยังคงเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตลาดที่มีการเติบโตสูง เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นแหล่งระดมเงินทุนขนาดใหญ่รวมรวมบริษัทที่มีศักยภาพสูง ตลาดหุ้นจีนหรือตลาดหุ้นเวียดนามที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ตลาดหุ้นยุโรปหรือตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่มีบริษัทมีประวัติยาวนาน
แต่เมื่อคุณเลือกที่จะออกไปลงทุนต่างประเทศแล้ว ความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นคือ “ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน” เพราะแต่ละประเทศที่เราจะเข้าไปลงทุนก็มีค่าเงินแข็ง-อ่อนแตกต่างกันไป และผันผวนตลอดเวลาแทบจะไม่มีวันไหนเลยที่อัตราแลกเปลี่ยนจะนิ่งสงบ คล้ายกับลูกคลื่นในทะเล ถ้าไม่มีแรงเพื่อมเล็กๆ ก็มีคลื่นลูกใหญ่แบบสึนามิ ที่อาจส่งผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนเรา
ดังนั้น เมื่อเกิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนขึ้น บรรดากองทุนรวมจึงมีกลไกการบริหารหรือป้องกันความเสี่ยง โดยการ Hedge หรือ FX Hedging เพราะถ้าหากพอร์ตกองทุนรวมเกิดกำไรจากผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนก็จริง แต่ถ้าเกิดไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน แล้วค่าเงินประเทศที่กองทุนเข้าไปลงทุนเกิดอ่อนค่าลง ก็อาจกลับตาลปัตรเป็นขาดทุนก็ได้ 

 

ความหมายของ Hedge
"Hedge" (เฮดจ) คือ การป้องกันความเสี่ยง เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา เช่น อัตราแลกเปลี่ยนหรือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ จากการลงทุนในตราสารทางการเงินในต่างประเทศ โดยจะมีการเข้าถือสถานะในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า กองทุนมักจะเลือกใช้กลยุทธ์นี้ในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging) ซึ่งระดับการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินของแต่ละกองทุนจะขึ้นอยู่กับ “Hedge Ratio” หรือสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (ดูได้จากเอกสาร Factsheet ของกองทุน) เช่น

แบบ Zero Hedge หรือ Unhedge : กองทุนรวมที่มีสัดส่วน Hedge Ratio 0%  คือ ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเลย ผลตอบแทนจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง หรืออ่อนอย่างเต็มอัตรา

แบบ Fully Hedged : กองทุนรวมที่มีสัดส่วน Hedge Ratio 100 % หมายถึง ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเต็มจำนวน ทำให้กองทุนที่เราไปลงทุนสามารถเคลื่อนไหวตามดัชนีอ้างอิงได้มากขึ้น

 

สุดท้ายแล้วแบบไหนดีกว่ากัน
กองทุนรวมต่างประเทศเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย ด้วยข้อดีในการกระจายความเสี่ยง โอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และการเข้าถึงการลงทุนระดับโลก แต่หากถามว่า จะเลือกลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศแบบไหนดี ระหว่างที่มีนโยบาย Hedge ค่าเงิน กับกองทุนที่มีนโยบาย Zero Hedge ค่าเงินนั้น มองว่าขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ หากเป็นผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลการลงทุน การเลือกลงทุนในกองทุน ซี่งมีผู้เชี่ยวชาญลงทุนให้ และลงทุนในกองทุนที่มีนโยบาย Hedge ค่าเงิน น่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า เนื่องจากช่วยให้ได้รับผลตอบแทนตามนโยบายการลงทุน โดยไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

สนใจลงทุนกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศกับ บลจ. ชั้นนำสามารถติดต่อเพื่อเปิดบัญชีซื้อขายกองทุนกับเจ้าหน้าที่ 724 Wealth ได้ที่ Line ID : @724Wealth หรือคลิ๊ก https://lin.ee/N1IQLH5 
 

คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน