ทำอย่างไรดี? เมื่อหุ้นกู้ที่เราถืออยู่เกิดผิดนัดชำระหนี้

หากพูดถึงการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคาร ตราสารหนี้ หรือ หุ้นกู้ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ทีนี้การลงทุนในหุ้นกู้ก็ยังมีความเสี่ยงสำคัญของการลงทุนหุ้นกู้ คือ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ที่ไม่สามารถชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยได้ตามที่กำหนด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากเราตกอยู่ในสถานการณ์โดนเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ ที่ออกโดยบริษัทต่างๆ ที่เรานั้นซื้อเพื่อลงทุนเอาผลตอบแทนจากดอกเบี้ยควรทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้เงินคืน

1. เตรียมเอกสาร
ผู้ถือหุ้นกู้ต้องจัดเตรียมเอกสาร หลักฐานการถือหุ้นกู้ให้พร้อม เพราะต้องใช้ในการยืนยันสถานะการเป็นผู้ถือหุ้นกู้นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นใบหุ้นกู้ (Script) หรือเอกสารยืนยันกรณีไร้ใบหุ้นกู้ (Scripless)

2. รู้ว่าเราถือหุ้นกู้ประเภทใด และใครทำหน้าที่เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบลำดับการชำระหนี้ของหุ้นกู้รุ่นที่เราถือครอง เพื่อที่จะได้รู้ลำดับการได้รับชำระหนี้ดังนี้
(1) ผู้ถือหุ้นกู้มีประกัน→ (2) ผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ→ (3) ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ→ (4) ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ
→ (5) ผู้ถือหุ้นสามัญ
จากนั้นผู้ถือหุ้นกู้ควรติดตามข้อมูลจาก ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ออกหุ้นกู้ในแต่ละรุ่น ถือเป็นคนกลางระหว่างผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้ ทำหน้าที่เรียกร้องให้ผู้ออกหุ้นกู้ชำระหนี้ บังคับหลักประกัน เรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้ถือหุ้นกู้ รักษาผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นกู้ รวมถึงการให้ข้อมูลต่างๆ กับผู้ที่ลงทุนหุ้นกู้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ ก็มีฝ่ายงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ทั้งสิ้น 23 ราย

3. พยายามเข้าประชุมผู้ถือหุ้นกู้อยู่เสมอ
เพราะทำให้ผู้ถือหุ้นกู้ได้ทราบข้อมูลสำคัญ และได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องที่อาจส่งผลกระทบต่อการได้รับชำระหนี้ เช่น การขยายเวลาชำระหนี้ หรือการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขอื่นๆ

4. หากมีการบังคับชำระหนี้ต้องทำอย่างไร
เมื่อบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะมีบทบาทสำคัญมากในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาข้อสรุปและนำมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ไปแจ้งต่อผู้ออกหุ้นกู้ รวมถึงการดำเนินการเรียกให้ชำระหนี้ บังคับหลักประกัน เรียกร้องค่าเสียหาย และแจกจ่ายทรัพย์สินให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้จากการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้น

5. ติดตามความคืบหน้าของการบังคับชำระหนี้
ผู้ถือหุ้นกู้ติดตามความคืบหน้าของผลการบังคับชำระหนี้จากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้อย่างใกล้ชิด คอยติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ รวมถึงแผนการปรับโครงสร้างหนี้หรือการฟื้นฟูกิจการ

สุดท้าย ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้ควรพิจารณาถึงบริษัทที่ออกหุ้นกู้ อันดับเครดิต เป้าหมายการลงทุน และระยะเวลาในการลงทุนของท่านให้ชัดเจนก่อนลงทุน ท่านสามารถติดต่อให้ทีมงาน 724 Wealth ช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุนหุ้นกู้ได้ที่ Line ID : @724Wealth หรือคลิ๊ก https://lin.ee/N1IQLH5