บทความ

4 เหตุผลที่ความอดทน ทำให้คุณลงทุนได้ดีขึ้น

4 เหตุผลที่ความอดทน ทำให้คุณลงทุนได้ดีขึ้น

ความอดทนรอโอกาสเป็นปัจจัยที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามมากที่สุด นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะมองหาสูตรสำเร็จเพื่อเป็นทางลัดพาเขาไปสู่ความร่ำรวยแบบไอดอล แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่ากว่านักลงทุนจะประสบความสำเร็จทำกำไรได้อย่างที่เราเห็น เขาต้องใช้เวลามากแค่ไหนในการศึกษา เฝ้าสังเกต วิเคราะห์และหาจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหุ้น ซึ่งทั้งหมดต้องใช้ ความอดทน

แต่ความอดทนไม่ใช่การนั่งรอหน้าจอเทรดเฉยๆ หรือการอดทนถือหุ้นบริษัทที่กิจการขาดทุนเป็นหลายปีติดต่อกัน เพียงแต่เป็นอดทนเฝ้ารอโอกาสในจังหวะเวลาที่เหมาะสม

ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่เหล่านักลงทุนต้องรู้ว่าความอดทน จะทำให้ท่านลงทุนได้ดีขึ้น

1.รอจุดซื้อที่ดีที่สุด

ในฐานะนักลงทุน ความต้องการสูงสุดของเราคือเข้าซื้อจุดที่มีโอกาสชนะตลาดมากที่สุด แม้ว่าตลาดจะเสนอโอกาสให้นักลงทุนไม่บ่อยนัก และใช่ว่าทุกโอกาสจะสามารถทำกำไรจากตลาดได้ เพราะว่ามีรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่หลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่จะทำให้นักลงทุนหลงผิด ดังนั้นนักลงทุนที่ดีจะรอให้ตลาดแสดงรูปแบบราคาที่ตนเองถนัด และมีจุดได้เปรียบมากที่สุด ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาดโอกาสบ่อยครั้ง นักลงทุนต้องอดทนรอจังหวะตลาดให้เป็น

2.หมั่นวิเคราะห์การดำเนินงานของคุณ

นักลงทุนที่มีความรอบคอบ จะคอยติดตามผลการลงทุนของตนอย่างระมัดระวัง นี่เป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจว่า การตัดสินใจของคุณแต่ละครั้ง มีผลต่อการซื้อขายหุ้นของคุณอย่างไร ก่อนกรอกคำสั่งซื้อขาย คุณต้องสามารถบอกได้ว่าคุณทำตามหลักของเหตุผล หรือเพียงทำตามแรงกระตุ้นของอารมณ์ ดังนั้นก่อนซื้อขายนักลงทุนต้องระบุได้ว่า คุณนั้น..

  1. กลัว...? (กลัวซื้อหุ้นราคาถูกไม่ทัน, กลัวราคาหุ้นต่ำลงกว่าเดิม ฯลฯ)
  2. โลภ...? (อยากได้กำไรมากกว่าเดิม, ไล่ซื้อราคาหุ้นที่สูง ฯลฯ)
  3. ใช้หลักเหตุผล (ซื้อหุ้นเพราะราคาต่ำกว่ามูลค่า, กิจการมีโอกาสเติบโตในอนาคต ฯลฯ)

 

3. การลงทุนที่ได้กำไรสม่ำเสมอ ไม่ง่าย

นักลงทุนที่ดี ต้องถอยออกมามองภาพใหญ่ ลงทุนและอดทนถือกำไรระยะยาว นักลงทุนส่วนใหญ่มักล้มเลิกก่อนเวลาอันควร ทำให้เกิดวลี เช่น ขายหมู, เฉียดรวย สาเหตุทั่วไปคือคุณมีจุดซื้อที่ได้เปรียบ แต่คุณไม่ไว้ใจแผนการลงทุนของตัวคุณเอง เมื่อไม่ไว้ใจจึงเกิดความสับสน ทำให้คุณพลาดโอกาสคว้ากำไรก้อนใหญ่

4.หมั่นฝึกความอดทน

นักลงทุนมืออาชีพจะไม่ให้อารมณ์นำพาการตัดสินใจ หมั่นปรับอารมณ์ให้เข้ากับการลงทุน ไม่ใจร้อนเพราะโอกาสในตลาดมีอยู่ทุกช่วงเวลา เมื่อนักลงทุนตระหนักรู้ตัวเองนี้จะให้กลับมาอยู่ในเกมส์ของตลาดและยอมรับความผันผวน พยายามหาสมดุลระหว่างเหตุผลกับอารมณ์