บทความ

Jet Lag คืออะไร? ทำยังไงให้อาการดีขึ้น?

Jet Lag คืออะไร? ทำยังไงให้อาการดีขึ้น?

Jet Lag เป็นอาการป่วยที่เกิดจากการเดินทางโดยบินข้ามเขตเวลาโลกแล้วร่างกายยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเขตเวลานั้นๆได้อย่างทันที ทำให้เกิดอาการ ปวดหัว เวียนศีรษะ และรู้สึกอ่อนเพลียมากๆ รู้สึกไม่อยากอาหาร แต่อาการนี้จะสามารถหายได้เองโดยร่างกายอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวในบางคนอาจจะต้องใช้เวลา 1-3 วัน แต่บางคนก็จะสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย

 

อาการของ Jet Lag

Jet Lag จะมีอาการเปลี่ยนไปตามระยะเวลาความต่างของเขตเวลา ยิ่งต่างกันมากจะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้นได้ โดยสามารถเกิดได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยอาการส่วนใหญ่จะเป็นดังนี้

  • รู้สึกปวดหัว วิงเวียน ไม่สบายเนื้อสบายตัว

  • ไม่มีสมาธิในการทำงาน รู้สึกกระสับกระส่าย

  • เมื่อยล้า อ่อนเพลีย รวมไปถึงปัญหาเรื่องการนอน ในบางรายอาจจะทำให้นอนไม่หลับ และบางรายอาจจะทำให้นอนหลับเป็นเวลามากเกินไป

  • อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย รู้สึกหงุดหงิด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

 

การรักษาอาการ Jet Lag

ถึงแม้อาการ Jet Lag จะสามารถหายและดีขึ้นได้เอง แต่ว่าในบางคนอาจจะต้องใช้เวลาและเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเช่นการเดินทางไปคุยงาน หรือประชุมไกลๆ อาจจะต้องเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการและ ช่วยแนะนำพฤติกรรมที่ช่วยให้อาการดีขึ้น

อาการ Jet Lag มักจะดีขึ้นและหายไปเมื่อร่างกายสามารถปรับตัวเข้ากับเขตเวลาใหม่ได้ภายใน 1-2 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษา แต่หากอาการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน อาการไม่ดีขึ้น หรือมีความจำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตเวลาบ่อย ๆ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ โดยแพทย์จะแนะนำแนวทางการรับมือกับอาการ Jet Lag หรืออาจแนะนำวิธีการรักษาที่ถูกต้อง โดยมีหลายวิธีเช่น

การใช้ยา

การใช้ยาผู้ป่วยจะต้องใช้ยาอย่างถูกต้องตามแพทย์แนะนำ โดยคนที่มีปัญหากับเวลาในการนอน อาจต้องใช้ยานอนหลับในกุล่ม Nonbenzodiazepines เช่น Zolpidem ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า ยานอนหลับนั้นมีฤทธิ์กึ่งเสพติดเพราะฉะนั้นการใช้ยานอนหลับจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น หากใช้มั่วอาจะเกิดอาการต่างๆตามมาทีหลังไม่ว่าจะเป็น ปวดหัว วิงเวียนศรีษะ อาเจียน และปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร เป็นต้น

 

การปรับพฤติกรรมรับมืออาการ Jet Lag

  • ถึงจะรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลีย อยากพักผ่อนหลังจากเดินทางข้ามเขตเวลาเป็นเวลานานๆ แต่เราควรพยายามตื่นตัวอยู่ตลอด ไม่นอนกลางวัน และพยายามนอนตามเวลาของเขตเวลาใหม่ เพื่อให้ร่างกายเกิดการปรับตัวได้อย่างเร็วขึ้นและเป็นธรรมชาติ

  • ปรับตารางเวลาชีวิตให้เข้ากับเขตเวลาใหม่ ทั้งกิจวัตรประจำวัน และการทานอาหาร การเข้านอนและการตื่นให้เป็นเวลาใหม่

  • ออกไปสูดธรรมชาติ พยายามอย่าอุดอู้อยู่ในห้องเพราะจะทำให้ร่างกายชินและไม่เกิดการปรับตัว โดยให้หาแสงสว่างจากธรรมชาติเพื่อทำให้ร่างกายได้ปรับตัวกับตารางเวลาใหม่และทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น

การป้องกันอาการ Jet Lag

  • พยายามเลือกสายการบินที่บินตรงหากไม่นานมากนัก แต่หากต้องบินนานๆ เราควรหาสายการบินที่มีการจอดพักหรือเปลี่ยนเครื่อง เพราะจะทำให้ร่างกายเราได้ค่อยๆ ปรับตัว

  • ปรับเวลานอนก่อนออกเดินทาง เมื่อต้องไปเขตเวลาใหม่ให้เราปรับเวลานอนตามเขตเวลานั้นๆ อาจจะไม่ต้องตรงเป๊ะแต่ค่อยๆ ปรับทีละนิดก็จะทำให้เราชินกับเขตเวลาใหม่ได้ง่ายขึ้น

  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง อย่าคิดว่าไปนอนบนเครื่องอย่างเดียวก็ได้ เพราะจะทำให้ร่างกายเราอ่อนเพลียกว่าเดิม

  • ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ทั้งในขณะเครื่องขึ้นบินและหลังเครื่องลงจอดแล้ว

อย่างที่กล่าวมา หากใครไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางไกลๆได้ ก็สามารถหาวิธีเพื่อช่วยป้องกันและลดอาการ Jet Lag ลงได้ด้วยหลายๆ วิธี แต่หากใครอาการไม่ดีขึ้นหรือมีธุระด่วนจะต้องทำภายในไม่กี่วันและร่างกายยังไม่พร้อม เราขอแนะนำให้พบแพทย์เพื่อปรึกษาและรักษาได้อย่างตรงจุดจะดีกว่า และหากกลัวเจ็บป่วยหรืออาการ Jet Lag ระหว่างเดินทาง เรามีตัวเลือกดีๆ นั่นก็คือการทำประกันการเดินทางเอาไว้ก่อน หากคุณเจ็บป่วยหรือมีอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง ก็สามารถเคลมประกันได้ง่ายๆ สบายๆ เลย และประกันการเดินทางก็สามารถทำเสร็จภายในไม่กี่คลิกที่ https://ta.724.co.th/ สามารถอ่านรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย